วัตถุประสงค์คุณภาพของ ISO 9001 : วัดผลอย่างไรให้ได้ผล ?
ปิยะชัย จันทรวงศ์ไพศาล
[email protected] ; [email protected]
จากประสบการณ์ของผู้เขียน มักจะได้รับคำถามจากผู้บริหารองค์กรในการตรวจประเมินรับรองระบบ ISO 9001 อยู่เสมอว่า หลังจากได้รับการรับรองระบบ ISO 9001 ไปสักระยะหนึ่งแล้ว พบว่า ช่วงแรกๆการควบคุมและการบริหารจัดการด้านคุณภาพจะดีขึ้น แต่หลังจากนั้น รู้สึกว่าปัญหาด้านคุณภาพจะยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ ผู้บริหารหลายท่านเริ่มรู้สึกว่า ระบบ ISO 9001 จะกลายเป็นภาระหนักขององค์กรไปเสียแล้ว บางท่านเริ่มสงสัยว่า ISO 9001 จะช่วยทำให้องค์กรพัฒนาปรับปรุงคุณภาพได้จริงหรือ ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรจำนวนมากจะประสบกับปัญหาที่ว่าการบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์คุณภาพ กลับไม่ใช่ความสำเร็จขององค์กร พูดกันง่ายๆก็คือว่า แม้วัตถุประสงค์คุณภาพจะบรรลุตามเป้าหมาย แต่ผลประกอบการขององค์กรกลับแย่ลง
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
ผู้เขียนเขียนคำตอบขีดเส้นใต้ได้เลยว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น “เพราะองค์กรไม่ได้นำแนวความคิดของระบบการบริหารจัดการคุณภาพ ISO 9001 ให้ซึมลึกเป็นเนื้อเดียวกันกับการทำงานตามปกติของกระบวนการต่างๆ” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างระบบการควบคุมเอกสารและบันทึกต่างๆมากเกินความจำเป็น จนกลายเป็นภาระที่พนักงานจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ทุกขั้นตอนต้องเขียนเป็นเอกสารให้ชัดเจน ทุกแบบฟอร์มจะต้องกรอกข้อมูลเยอะแยะ บางแบบฟอร์มก็ซ้ำซ้อน แต่ยังต้องกรอกข้อมูลซ้ำๆกัน และยังต้องจัดเก็บไม่ให้สูญหายอีก หากพิจารณาจากข้อกำหนดของ ISO 9001 แล้วจะพบว่า ระเบียบปฏิบัติ (Procedure) ที่จำเป็นต้องจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียง 6 ฉบับเท่านั้น คือ
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการควบคุมเอกสาร (Document control procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการควบคุมบันทึก (Record control procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการตรวจประเมินภายใน (Internal audit procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด (Nonconforming product control procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการแก้ไข (Corrective action procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการป้องกัน (Preventive action procedure)
จากระเบียบปฏิบัติทั้ง 6 ฉบับดังกล่าว ยังสามารถยุบรวมให้เหลือเพียง 4 ฉบับ คือ
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการควบคุมเอกสารและบันทึก (Document and record control procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการตรวจประเมินภายใน (Internal audit procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการควบคุมผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด (Nonconforming product control procedure)
· ระเบียบปฏิบัติเรื่องการแก้ไขและป้องกัน (Corrective and preventive action procedure)
ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การวัดผลสำเร็จของวัตถุประสงค์คุณภาพและการวัดผลสำเร็จขององค์กร ที่ผู้บริหารหลายองค์กรเห็นว่ายิ่งทำ ISO 9001 ยิ่งทำให้องค์กรไม่พัฒนา ไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น มาจากการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ผิดพลาดไปตั้งแต่แรก โดยที่วัตถุประสงค์คุณภาพตามระบบ ISO 9001 ไม่ได้เชื่อมโยงไปที่ผลสำเร็จตามนโยบายคุณภาพและผลสำเร็จขององค์กรนั่นเอง
ประเด็นสุดท้าย คือ ผู้บริหารระดับสูง (MD หรือ CEO) ไม่รับทราบหรือไม่ใส่ใจในการติดตามผลการทำงานของระบบ ISO 9001 โดยเฉพาะการไม่สนใจในการร่วมกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายคุณภาพ ปล่อยให้แผนกต่างๆกำหนดกันขึ้นเอง แน่นอน ผู้จัดการบางท่านก็คิดว่าตั้งวัตถุประสงค์คุณภาพให้ง่ายๆเข้าไว้ คงไม่เป็นไร เพราะไม่อยากจะเขียนปฏิบัติการแก้ไข หากไม่บรรลุตามเป้าหมาย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คงยากที่จะทำให้วัตถุประสงค์คุณภาพมีประสิทธิภาพได้ ในประเด็นนี้ ผู้เขียนแนะนำให้ QMR พยายามโน้มน้าวให้ฝ่ายบริหารเล็งเห็นถึงประโยชน์ในการตั้งวัตถุประสงค์คุณภาพ เทคนิคหนึ่งที่ผู้เขียนแนะนำให้ QMR นำไปใช้ คือ การให้ผู้บริหารเซ็นชื่อรับทราบในประกาศวัตถุประสงค์คุณภาพประจำปี และพยายามให้ท่านเข้าร่วมการประชุมทบทวนฝ่ายบริหาร
(ปรับปรุงจากความตอนหนึ่งจากหนังสือ “การบริหารผลงาน ทำจริงทำอย่างไร ? ของผู้เขียน”